home หน้าหลัก
แนะนำรายวิชา แนะนำรายวิชา
iconmenu แบบทดสอบก่อนเรียน
หัวข้อ บทที่ 1 ภาษาคอมพิวเตอร์
หัวข้อ บทที่ 2 ภาษาซี
แบบทดสอบก่อนเรียน
2.1 ประวัติภาษาซี
2.2 โครงสร้างภาษาซี
2.3 โปรแกรมแปลภาษาซี
2.4 เริ่มต้นเขียนโปรแกรม
แบบทดสอบหลังเรียน
หัวข้อ บทที่ 3 ข้อมูลและตัวดำเนินการ
หัวข้อ บทที่ 4 การรับข้อมูลและการแสดงผล
iconmenu แบบทดสอบหลังเรียน
   

 

             ภาษาซีเป็นภาษาที่ถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ถูกพัฒนาขึ้นใน ค.ศ. 1972 โดยเดนนิส ริทซี (Dennis Ritchie) แห่งห้องทดลองเบลล์ ที่เมอร์รีฮิล มลรัฐนิวเจอซี่ โดยได้ใช้หลักการของภาษาบีซีพีแอล (BCPL = basic Combine programming language) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเคน ทอมสัน (เคน ทอมสัน) ได้ตั้งชื่อว่า ซี (C) เพราะเห็นว่าเป็นตัวอักษรต่อจากบี (B) ของภาษา BCPL
            ในปี .ศ.1978 เมื่อเบรน เคอร์ไนฮ์ (ฺBrain Kenighan) ร่วมกับเดนนิส ริทซี พัฒนามาตรฐานของภาษาซีขึ้นมาคือ K&K (Kerninghan & Ritchie) และทั้งสองอย่างได้แต่งหนังสือที่ชื่อว่า The C Programming Language ต่อมาในช่วง คศ.1988 เบรน เคอร์ไนซ์ ได้ร่วมกับ ANSI (American National Standards Institute)

          ภาษา C ถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ทั้งนี้เพราะภาษาซีมีวิธีใช้ข้อมูลและมีโครงสร้างการควบคุมการทำงานของโปรแกรม อย่างเดียวกับภาษาของโปรแกรมระดับสูงอื่น ซึ่งถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ความสามารถระดับสูง ทำให้ภาษาซีเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์ ภาษาซี สามารถสร้างรหัสภาษาเครื่องซึ่งตรงกับชนิดของข้อมูลนั้นได้เอง ทำให้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซีที่เขียนบนเครื่องหนึ่งสามารถนำไปใช้กับ อีกเครื่องหนึ่งได้ ประกอบกับการใช้พอยน์เตอร์ในภาษาซี นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์

กฎพื้นฐานของภาษาซี

ข้อดีของภาษา C

  1. เป็นภาษาที่มีลักษณะเป็นโครงสร้าง จึงเขียนโปรแกรมง่ายโปรแกรมที่เขียนขึ้นจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สั่งงานคอมพิวเตอร์ได้รวดเร็วกว่าภาษาระดับสูงอื่น ๆ

  2. สั่งงานอุปกรณ์ในระบบคอมพิวเตอร์ได้เกือบทุกส่วนของฮาร์ดแวร์ ดีกว่าภาษาระดับสูงภาษาอื่น ๆ

  3.  คอมไพเลอร์ภาษาซีทุกโปรแกรมทำงานอ้างอิงมาตรฐาน ANSI (American National Standards Institute)  เกือบทั้งหมด จึงทำให้โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษาซีสามารถนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ทุกรุ่นที่มีมาตรฐาน ANSI รับรอง

  4. โปรแกรมที่เขียนขึ้นด้วยภาษา C สามารถนำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ CPU ต่างเบอร์กันได้ถือได้ว่าเป็นโปรแกรมที่มีความยืดหยุ่นสูง

  5. สามารถนำภาษาซีไปใช้ในการเขียนโปรแกรมประยุกต์ได้หลายระดับ เช่น เขียนโปรแกรมจัดการระบบงาน (OS)  คอมไพเลอร์ของภาษาอื่น โปรแกรมสื่อสารข้อมูล โปรแกรมจัดการฐานข้อมูลโปรแกรมปัญญาประดิษฐ์รวมทั้งโปรแกรมคำนวณงานทางด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์เป็นต้น

  6. สามารถประกาศข้อมูลได้หลายชนิดและหลายรูปแบบ ทำให้สะดวกรวดเร็วต่อการพัฒนาโปรแกรมตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้
  7. ประยุกต์ใช้ในงานสื่อสารข้อมูลและงานควบคุมที่ต้องการความแม่นยำในเรื่องเวลาได้ดีกว่าภาษาระดับสูง อื่นๆ
  8. สามารถเขียนโปรแกรมด้วยเทคนิคแบบ oop (object oriented programming)  ได้ หากใช้ภาษา c รุ่น Turbo C++ ขึ้นไปทำให้สามารถพัฒนาโปรแกรมประยุกต์เพื่อใช้งานได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม