home หน้าหลัก
แนะนำรายวิชา แนะนำรายวิชา
iconmenu แบบทดสอบก่อนเรียน
หัวข้อ บทที่ 1 ภาษาคอมพิวเตอร์
แบบทดสอบก่อนเรียน
1.1 ภาษาคอมพิวเตอร์
1.2 ตัวแปลภาษา
1.3 แนวคิดการโปรแกรม
1.4 หลักการโปรแกรม
1.5 อัลกอริทึ่ม
แบบทดสอบหลังเรียน
หัวข้อ บทที่ 2 ภาษาซี
หัวข้อ บทที่ 3 ข้อมูล                   และตัวดำเนินการ
หัวข้อ บทที่ 4 การรับข้อมูลและการแสดงผล
iconmenu แบบทดสอบหลังเรียน

              คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานได้หากไม่มีคำสั่งดังนั้นผู้เขียนโปรแกรมจะต้องเขียนคำสั่งเพื่อสั่งให้ คอมพิวเตอร์ทำงานให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการการเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการเขียนโปรแกรมเพื่อเป็นพื้นฐานที่ จะทำความเข้าใจและสามารถเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามต้องการได้สำหรับแนวคิด ในการเขียนโปรแกรมนั้น สามารถแบ่งเป็น 2 รูปแบบนี้ด้วยกันคือ

              1. การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง ( Structured programming) แนวความคิดนี้เป็นการจัดการคำสั่งต่าง ๆ ให้มีรูปแบบและมาตรฐานที่สามารถเขียนโปรแกรมได้ง่าย อีกทั้งยังตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมได้ โดยไม่ยุ่งยาก และง่ายต่อการปรับปรุงในอนาคต ซึ่งมีโครงสร้างการควบคุมพื้นฐาน 3 รูปแบบคือ
                1.1 โครงสร้างแบบเป็นลำดับขั้นตอน ( sequence) ประกอบด้วยคำสั่งหรือชุดคำสั่งไม่มีเงื่อนไข มีทางเข้า ทางเดียว และมีทางออกทางเดียว ดำเนินการแบบเรียงลำดับต่อเนื่องจากบนลงล่างโดยแต่ละขั้นตอนมีการดำเนินงาน เพียงครั้งเดียว

              1.2 โครงสร้างแบบมีทางเลือกในการตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่ง (Decision) เป็นโครงสร้างที่มีเงื่อนไข และมีการตรวจสอบเงื่อนไข condition ว่าเป็นค่าจริงหรือค่าเท็จ แล้วดำเนินงานตามคำสั่งที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

               1.3 โครงสร้างแบบทำซ้ำ  ( iteration) เป็นการทำงานในลักษณะวนซ้ำหลายๆรอบ (Loop) โดยจะหลุดออกจากเงื่อนไขก็ต่อเมื่อเลื่อนไขตรงตามที่กำหนดไว้


             2.  การเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object -  oriented Programming)  หรือแนวคิดเชิงวัตถุตั้งอยู่บนพื้นฐานการแจกแจงรายละเอียดของปัญหา ในการเขียนโปรแกรมเพื่อให้เป็นไปตามหลักการ เชิงวัตถุนั้น ต้องพยายามมองรูปแบบวัตถุให้ออก การทำความเข้าใจถึงหลักการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุต้องอาศัย จินตนาการพอสมควร ซึ่งจะมองวัตถุหนึ่ง ๆ เป็นแหล่งรวมของข้อมูลและกระบวนการเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะมีคลาส (Class) เป็นตัวกำหนดคุณสมบัติของวัตถุ และคลาสจะสามารถสืบทอดคุณสมบัติไปยังคลาส (Class) ไปยังคลาสย่อยต่าง ๆ ที่เรียกว่า subclass ได้ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวจึงทำให้เกิดการนำมาใช้ใหม่ (Reusable) ที่ทำให้ลดขั้นตอนการพัฒนา โปรแกรมลงได้ โดยเฉพาะโปรแกรมขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง